วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บ่อน้ำศึกดิ์สิทธิ์

บ่อน้ำศึกดิ์สิทธิ์

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นบ่อน้ำที่ผุดดันขึ้นจากใต้พื้นดินอยู่ตลอดเวลาไม่มีเหือดแห้ง ตั้งอยู่บนพื้นที่นาของ นายก้าน ปัจจัยโก ชาวบ้านทั่วไปเรียกบ่อน้ำแห่งนี้ว่า บ่อน้ำดูน หรือ หนองน้ำดูน นาที่อยู่ใกล้บ่อน้ำแห่งนี้เรียกว่า นาน้ำดูนต่อมาเรียกสั้น ๆ ว่านาดูนหมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้เรียกว่า บ้านนาดูน

บ่อน้ำศักดิสิทธิ์ตั้งอยู่ที่ตำบลนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอนาดูนไปทางทิศเหนือประมาณ 3.5 กิโลเมตร สาเหตุที่ได้ชื่อว่า บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เนื่องจาก เมื่อ พ.ศ.2468 กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้หัวเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดหาน้ำในสระ หรือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จัดส่งไปไปรวมในพระราชพิธีรัชมหามังคลาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 7ทรงเสวยราชย์พระยาสารคามคณาภิบาล (อนังค์พยัคฆันต์) ข้าหลวงประจำจังหวัดมหาสารคาม(ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม)ในขณะนั้น ได้สั่งให้รองมาตย์เอกหลงพิทักษ์นรากร นายอำเภอวาปีปทุมจัดหาน้ำมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ รองอำมาตย์เอกหลงพิทักษ์รากรได้ประชุมข้าราชการและประชาชน มีมติในห้นำน้ำจากหนองน้ำดูนไปเข้าร่วมพิธีโดยได้ส่งมอบน้ำให้พระยาสารคามคณาภิบาล ข้าหลวงประจำจังหวัดมหาสารคาม เพื่อจัดส่งไปยังสมุเทศาภิบาลร้อยเอ็ด และกรุงเทพฯ ต่อไป

พ.ศ.2494 ประชาชนได้ข่าวลือทั่วไปว่า ถ้าใครเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นโรค เช่น เป็นโรคง่อยเปลี้ยเสียขา ปวดหลัง ปวดเอว ปวดท้อง ปวดศีรษะ หรือเป็นโรคอื่น ๆ เมื่อน้ำจากบ่อน้ำดูนไปอาบไปกินโรคนั้งก็จะหาย จึงมีประชาชนจากอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงได้หลั่งไหลไปตักน้ำจากบ่อน้ำแห่งนี้ไปรักษาโรคกันเป็นจำนวนมาก ในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชการที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ในวันที่ 5 นวาคม พ.ศ2530 กระทรวงมหาดไทยได้ให้จังหวัดมหาสารคามนำน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเป็นน้ำมังคลาภิเษกในวันเสด็จออกมหาสมาคมในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

นายไสว พรามหมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้ประชุมนายอำเภอทุกอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด พิจารณาหาน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเขตจังหวัด

มหาสารคาม ที่ประชุมมีมติให้นำน้ำจากบ่อน้ำดูน หรือหนองน้ำดูนแห่งนี้เข้าส่งเข้าทูลเกล้า ฯ ในพระราชพิธีดังกล่าวโดยได้ประกอบพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวันพุธที่ 4 พฤษจิกายนพ.ศ.2530 เวลา 09.00 น แล้วนำไปพักไว้ที่พระอุโบสถวัดมหาชัย จังหวัดมหาสารคาม และได้ส่งต่อไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีต่อไป

และในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชการที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542 จังหวัดมหาสารคามได้ประกอบพิธีกรรมตักน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธ์แห่งนี้ เพื่อเข้าร่วมประกอบพระราชพิธีถวายสวัสดิมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ โดยนายประสิทธิ์ เอี่ยมประชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพลีกรรมตักน้ำ ณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2542เวลา 16.39 น.และนำน้ำไปพักไว้ที่พระอุโบสถวัดมหาชัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำ แล่ะงต่อไปยังกระทรวงมหาดไทยต่อไป จึงเรียกบ่อน้ำแห่งนี้ว่า บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น