วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อันตรายจากการสวมใส่รองเท้าส้นสูง

รองศาสตราจารย์บัญญัติ สุขศรีงาม
ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

รองเท้าเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องแต่งกาย การเลือกรองเท้าที่ดีและเหมาะสมก็จะมีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูสวยและสง่างามยิ่งขึ้น โดยเฉพาะรองเท้าของคุณผู้หญิงทั้งหลายจะมีการผลิตออกมาจำหน่ายหลายรูปแบบตามแฟชั่นสมัยนิยม

แต่รองเท้าประเภทหนึ่งที่คุณผู้หญิงที่ทำงานในเมืองและกลุ่มนิสิตนักศึกษาวัยรุ่นหญิงทั้งหลายนิยมใช้กันมาก ได้แก่ รองเท้าส้นสูง นั่นเอง

แม้ว่าการใส่รองเท้าส้นสูงจะทำให้ดูสูงขึ้นและสง่างามก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
ของเท้าได้เช่นกัน กล่าวคือ การใส่รองเท้าส้นสูงไปนาน ๆ จะทำให้รอยเท้าสั้นกว่าปกติ ทำให้การรับน้ำหนักของร่างกายผิดปกติไปด้วย เป็นผลให้ร่างกายรักษาสมดุลได้ค่อนข้างยาก ในขณะใส่

รองเท้าส้นสูงจะทำให้กล้ามเนื้อฝ่าเท้าและขาต้องทำงานหนักมากขึ้น กล้ามเนื้อบริเวณน่องและเอ็นร้อยหวายจะหดตัวอยู่ตลอดเวลา จึงมีผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดบริเวณนี้

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากใส่รองเท้าที่มีส้นสูงมาก ๆ ก็ทำให้บริเวณหลังจะแอ่นมากกว่าปกติและเป็นสาเหตุของการปวดหลังได้ในที่สุด นอกจากนี้มีรายงานทางการแพทย์พบว่าการใส่รองเท้าที่มีส้นสูงมาก ๆ และปลายแคบจะทำให้มีความเสี่ยงต่อความพิการของเท้าได้เช่นกันเนื่องจากในขณะยืนหรือเดินจะเกิดแรงบีบที่นิ้วเท้าและเพิ่มแรงกดที่ฝ่าเท้าอย่างมาก เช่น ถ้าใส่รองเท้าส้นสูงปลายแคบโดยมีความสูงระหว่าง ๓ – ๔ นิ้ว จะทำให้เพิ่มแรงกดที่ฝ่าเท้ามากเป็น ๗ เท่าของการสวมรองเท้าพื้นราบ

ในปัจจุบันยังมีการนิยมสวมใส่รองเท้าส้นสูงอีกลักษณะหนึ่งที่เรียกว่า รองเท้าส้นตึกซึ่งเป็นรองเท้าที่มีความสูงทั้งส่วนส้นเท้าและปลายเท้า เป็นที่นิยมกันมากในกลุ่มผู้หญิงที่ทำงานในเมืองใหญ่ ๆ หรือนิสิตนักศึกษา ทั้งนี้ได้อิทธิพลของแฟชั่นรองเท้าส้นตึกมาจากญี่ปุ่นนั่นเอง แต่แทบไม่มีใครได้ทราบเลยว่าการใส่รองเท้าส้นตึกเป็นเวลานานจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะการทำให้ปวดหัวเข่าและข้อเท้า

เมื่อไม่นานมานี้ นายแพทย์เคซีย์ เคอร์ริแกน ได้ศึกษาผลของการสวมใส่รองเท้าส้นตึกต่อสุขภาพ

โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้หญิงอายุตั้งแต่ ๓๐ ปีขึ้นไป จำนวน ๒๐ คน และแต่ละคนมีสุขภาพ
สมบูรณ์แข็งแรง ผู้หญิงกลุ่มตัวอย่างได้สวมใส่รองเท้าส้นแหลมและรองเท้าส้นตึก จากนั้นให้เดินไปบนทางเดินเป็นระยะทาง ๑๐ เมตร ระหว่างการเดินจะมีการบันทึกการเคลื่อนไหวของแต่ละคนไว้ รวมทั้งวัดแรงกดที่มีต่อหัวเข่าและข้อเท้าไว้ด้วย จากผลการทดลองพบว่าการสวมใส่รองเท้าส้นแหลมและรองเท้าส้นตึกจะทำให้หัวเข่าและข้อเท้าต้องรับแรงกดจากน้ำหนักมากเกินไป ถ้าสวมใส่เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดอาการปวดหัวเข่าได้ และยิ่งผู้สวมใส่มีอายุมากจะเกิดอาการปวดเข่าได้รวดเร็วด้วย

นอกจากอันตรายดังกล่าวแล้วการสวมใส่รองเท้าส้นตึกยังอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้สวมใส่โดยทำให้เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยบริเวณน่องและขา รวมทั้งอาจเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง ๓ ระดับ ได้แก่ เอ็นฉีกขาดเล็กน้อย เอ็นฉีกขาดรุนแรงระดับกลางและเอ็นฉีกขาดจากกัน

และจากข้อมูลของการรักษาพยาบาลพบว่าผู้ป่วยจากการสวมรองเท้าส้นตึกส่วนมากจะมีอาการเท้าแพลงที่มีสาเหตุจากเอ็นฉีกขาดรุนแรงระดับกลางมากที่สุด ทำให้ต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลานานอีกด้วย

แม้ว่าการสวมใส่รองเท้าส้นสูงอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความ
นิยมของคุณผู้หญิงทั้งหลายลดน้อยลง เพราะอันตรายที่อาจจะเกิดจากการสวมใส่รองเท้าส้นสูงกว่าจะปรากฏอาการออกมาให้เห็นก็ใช้เวลานาน

จึงขอให้คุณผู้หญิงทั้งหลายได้ให้ความระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย การใส่รองเท้าส้นสูงทำให้ดูสวยและสง่างามก็จริง แต่ก็ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้คุ้มค่ากันหรือไม่ก็ขอให้นำไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินใจ

เนื่องจากการใส่รองเท้าส้นสูงทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพดังกล่าวมาแล้ว การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการไม่ใส่รองเท้าส้นสูง แต่ใส่รองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าไม่มีส้น เพราะทำให้หัวเข่าและข้อเท้าไม่ต้องรับแรงกดจากน้ำหนักตัวมากเกินไป จึงไม่เกิดอาการปวดหัวเข่าหรือข้อเท้าหรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณน่องและขา

ส่วนคุณผู้หญิงที่ชอบหรือจำเป็นต้องใส่รองเท้าส้นสูงก็ต้องหาทางป้องกันอันตรายไว้ด้วย เช่น ในแต่ละวันไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานาน ควรหาโอกาสพักการใส่รองเท้าส้นสูงไว้บ้างเพื่อให้เท้าได้มีโอกาสผ่อนคลาย การกระทำเช่นนี้จะช่วยลดอันตรายจากการใส่รองเท้าส้นสูงได้บ้าง

ที่มา...สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา
http://www.uniserv.buu.ac.th/forum2/topic.asp?TOPIC_ID=1060

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น